ข้อเสียของงานบรูไฮไทโซ่ คือ การการตีกันในหมู่วัยรุ่น และ มีขยะเกื่อลบริเวณที่ว่าการอำเภอและบริเวณรอบๆ
วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
ข้อดีและ ข้อเสียของ งานบรูไฮไทโซ่
ข้อดีของงานบรูไฮไทโซ่ คือ รักษาวัฒนธรรมของไทบรู ก่อเกิดความสามัครคีในชุมชน และ ความสนุกสนานของคนในชุมชน
ข้อเสียของงานบรูไฮไทโซ่ คือ การการตีกันในหมู่วัยรุ่น และ มีขยะเกื่อลบริเวณที่ว่าการอำเภอและบริเวณรอบๆ
ข้อเสียของงานบรูไฮไทโซ่ คือ การการตีกันในหมู่วัยรุ่น และ มีขยะเกื่อลบริเวณที่ว่าการอำเภอและบริเวณรอบๆ
งานบรูไฮไทโซ่ ( กิจกรรมภาคกลางคืน )
วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
งานบรูไฮไทโซ่ ( กิจกรรมภาคเช้าของงานบรูไฮไทโซ่ )
กิจกรรมในภาคเช้าของงานบรูไฮไทโซ่ นั้นจะเป็นการแสดงวิถีชีวิตของชุมชนนั้นๆ เช่น การเหย้า การอยู่กินในสมัยก่อน การสร้างบ้านที่อยู่อาศัย การเลี้ยงสัตว์ และขบวนแห่งของแต่ละชุมชน
วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
งานบรูไฮไทโซ่ (กว่าจะเป็นซุ้มโรงเรียนดงหลวงวิทยา)
งานบรูไฮไทโซ่ (ซุ้มของโรงเรียนดงหลวงวิทยา)
ภายในซุ้มจะมีการโชว์นิทัศการ ประวิติศาสตร์ของแต่ละชนเผ่าในอำเภอดงหลวง โคมไฟที่ทำจากวัสดุเหลือใช้ วัตถุโบราณ เช่นหีบโบราณ ฝืมโบราณ และมีอาหารว่างอย่าง เม็ดมะขามคั่วหรือฟ้ารั่น ไว้คอยเซิฟ ขณะเดินชมนิทัศการ ฟ้ารั้นที่นำไปเซิฟนั้นได้รับความอนุเคราะห์จาก คุณครูพิษณุ ชมภู
งานบรูไฮไทโซ่
งานบรูไฮไทโซ่
งานบรูไฮไทโซ่ครั้งนี้ จัดขึ่นระหว่างวันที่ 9 - 11 กุมภาพันธ์ การจัดงานครั้งนี้เป็และวัฒนธรรมประเพณีของชาวไทโซ่ ของอำเภอดงหลวง ซึ่งแต่ละหมู่บ้านก็จะมีการนำเอาความเป็นอยู่ เช่น การอยู่อาศัย การอาหารการกิน ของชาวไทโซ่ ในอดีตมาแสดงโชว์ นอกจากจะมีซุ้มของแต่ละหมู่บ้านแล้ว ยังมีซุ้มของอาชีวะดงหลวง และซุ้มของโรงเรียนต่างๆ ในเขต ตำบลดงหลวง
งานบรูไฮไทโซ่ครั้งนี้ จัดขึ่นระหว่างวันที่ 9 - 11 กุมภาพันธ์ การจัดงานครั้งนี้เป็และวัฒนธรรมประเพณีของชาวไทโซ่ ของอำเภอดงหลวง ซึ่งแต่ละหมู่บ้านก็จะมีการนำเอาความเป็นอยู่ เช่น การอยู่อาศัย การอาหารการกิน ของชาวไทโซ่ ในอดีตมาแสดงโชว์ นอกจากจะมีซุ้มของแต่ละหมู่บ้านแล้ว ยังมีซุ้มของอาชีวะดงหลวง และซุ้มของโรงเรียนต่างๆ ในเขต ตำบลดงหลวง
วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
น้ำตกแก่งวังสาร
น้ำตกแก่งวังสาร
น้ำตกแก่งวังสาร ถือว่าเป็นน้ำตกธรรมชาติที่ค่อนข้างมีความสวยงามอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดมุกดาหาร โดยตัวน้ำตกนั้นมีน้ำไหลอยู่ตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาสัมผัสได้ทุกฤดูกาล น้ำตกแก่งวังสาร ตั้งอยู่ที่หมู่ 11 บ้านแก่งนาง ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ระยะห่างจากอำเภอดงหลวงประมาณ 78 กม.
น้ำตกแก่งโพธิ์
น้ำตกแก่งโพพธิ์
น้ำตกแก่งโพธิ์ ถือว่าเป็นน้ำตกธรรมชาติที่ค่อนข้างมีความสวยงามอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดมุกดาหาร โดยตัวน้ำตกนั้นมีน้ำไหลอยู่ตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาสัมผัสได้ทุกฤดูกาล ตัวน้ำตกมีขนาดกว้าง 14 เมตร สูง 10 เมตร มีเส้นทางการเดินศึกษาธรรมชาติระยะทาง 2,000 เมตร รอบๆน้ำตกนั้นมีสภาพเป็นป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ที่อุดมสมบูรณ์สองข้างทางลำน้ำพุง และยังมีพื้นที่สามารถกางเต็นท์พักแรมได้ การเดินทางจากตัวอำเภอ น้ำตกแก่งโพธิ์ ตั้งอยู่ที่หมู่ 8 บ้านนาหินกอง ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ระยะห่างจากอำเภอดงหลวงประมาณ 88 กม.
น้ำตกแก่งโพธิ์
วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2559
อ่างเก็บน้ำห้วยไผ่
โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยบางทรายตอนบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริหรือห้วยไผ่
พระราชดำริเมื่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีความห่วงใยชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรบริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยบางทรายตอนบน อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2537 ได้ทรงมีพระราชดำรัสกับ พลเอกเทียนชัย จั่นมุกดา รองสมุหราชองครักษ์ ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต ให้กรมชลประทานตรวจสอบสภาพพื้นที่ สภาพการถือครองที่ดิน สภาพน้ำท่า ในลำห้วยสายต่างๆตลอดจนสภาพการเพาะปลูกตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาศึกษาเบื้องต้น โครงการจัดหาแหล่งน้ำช่วยเหลือการเพาะปลูกและการอุปโภคบริโภคของราษฎรบริเวณดังกล่าว ตามที่ได้ทรงวางโครงการในแผนที่ 1: 50,000
วัตถุประสงค์ของโครงการ มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ 4 ประการคือ
1. เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในเขตโครงการให้มีที่ทำกินเป็นของตนเอง โดยดำเนินการในระบบปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่สมบูรณ์แบบ และให้มีการจัดการในรูปของสหกรณ์การเกษตร
2. เพื่อยกฐานะความเป็นอยู่ของราษฎรให้ดีขึ้น โดยจัดให้มีการพัฒนาอาชีพในด้านต่างๆ ได้แก่ การเพาะปลูกการปศุสัตว์ การประมงน้ำจืด การหัตถกรรมต่างๆเป็นอาชีพเสริม
3. พัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร อุปโภคบริโภคให้มีปริมาณน้ำเพียงพอ ต่อความเป็นอยู่ของราษฎร
4. เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสภาพแวดล้อม ลดการทำลายป่าต้นน้ำลำธารและฟื้นฟูสภาพป่าที่ถูกทำลายให้กลับสู่สภาพเดิม
พระราชดำริเมื่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีความห่วงใยชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรบริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยบางทรายตอนบน อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2537 ได้ทรงมีพระราชดำรัสกับ พลเอกเทียนชัย จั่นมุกดา รองสมุหราชองครักษ์ ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต ให้กรมชลประทานตรวจสอบสภาพพื้นที่ สภาพการถือครองที่ดิน สภาพน้ำท่า ในลำห้วยสายต่างๆตลอดจนสภาพการเพาะปลูกตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาศึกษาเบื้องต้น โครงการจัดหาแหล่งน้ำช่วยเหลือการเพาะปลูกและการอุปโภคบริโภคของราษฎรบริเวณดังกล่าว ตามที่ได้ทรงวางโครงการในแผนที่ 1: 50,000
วัตถุประสงค์ของโครงการ มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ 4 ประการคือ
1. เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในเขตโครงการให้มีที่ทำกินเป็นของตนเอง โดยดำเนินการในระบบปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่สมบูรณ์แบบ และให้มีการจัดการในรูปของสหกรณ์การเกษตร
2. เพื่อยกฐานะความเป็นอยู่ของราษฎรให้ดีขึ้น โดยจัดให้มีการพัฒนาอาชีพในด้านต่างๆ ได้แก่ การเพาะปลูกการปศุสัตว์ การประมงน้ำจืด การหัตถกรรมต่างๆเป็นอาชีพเสริม
3. พัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร อุปโภคบริโภคให้มีปริมาณน้ำเพียงพอ ต่อความเป็นอยู่ของราษฎร
4. เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสภาพแวดล้อม ลดการทำลายป่าต้นน้ำลำธารและฟื้นฟูสภาพป่าที่ถูกทำลายให้กลับสู่สภาพเดิม
อุโมงผันน้ำ
และเมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๘ ได้พระราชทานพระราชดำริให้พิจารณาผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยไผ่ ซึ่งอยู่ทางฟากจังหวัดมุกดาหารมาเติมให้แก่ อ่างเก็บน้ำลำพะยังเพื่อขยายพื้นที่รับน้ำชลประทานได้มากขึ้น
ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชดำริเพิ่มเติม สรุปความว่าให้รีบดำเนินการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยไผ่มายังพื้นที่โครงการอ่างเก็บน้ำลำพะยัง และให้พิจารณาดูว่าพื้นที่ที่จะส่งน้ำออกจากอุโมงค์ว่ามีพื้นที่ว่างหรือไม่ ให้ดำเนินการปลูกป่าโดยทำเป็นอุทยานเล็กๆ เพื่อทดแทนผลกระทบที่จะเกิดกับป่าไม้ เพราะหากไม่ดำเนินการช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่นั้น ราษฎรก็จะบุกรุกป่าและทำลายพื้นที่ลุ่มน้ำ ๑ เอ จนหมดและน้ำที่ออกมาก็ให้พิจารณาว่าจะนำไปช่วยพื้นที่ลุ่มน้ำ ๑ เอ ในการบำรุงรักษาป่าให้เกิดความชุ่มชื้นได้มากเพียงใด ตัวอย่างเช่น โครงการลำตะคองพื้นที่เป็นอุทยานแห่งชาติยังทำได้เพราะทำแล้ว ได้ประโยชน์มาก
วัตถุประสงค์โครงการ :
- เมื่อก่อสร้างอุโมงค์ผันน้ำแล้วเสร็จจะทำให้พื้นที่ฝั่งโครงการอ่างเก็บน้ำลำพะยัง จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่รับประโยชน์ ๔,๖๐๐ไร่ เมื่อได้น้ำจากอุโมงค์ผันน้ำจะเพิ่มพื้นที่รับประโยชน์ได้อีก ๑๒,๐๐๐ ไร่ รวมพื้นที่รับประโยชน์ทั้งหมด ๑๖,๖๐๐ ไร่
- เพื่อส่งเสริมการปลูกพืชในเขตชลประทาน หมู่ที่ ๕,๖,๗,๑๐,๑๔,๑๑๕,๑๖ ตำบลสงเปลือย ได้แก่ ข้าวโพด ๗๐ ไร่ ยาสูบเตอร์กิส ๕ ไร่ ถั่วลิสง ๔๐ ไร่ กระเทียม ๕ ไร่ ฟักทอง ๓ ไร่ บวบ ๒ ไร่ ถั่วฝักยาว ๒ ไร่ ถั่วพุ่ม ๒ ไร่ รวมพื้นที่ ๑๔๔ ไร่ เกษตรกร ๔๘ ราย มูลค่าผลผลิต ๕๒๗,๐๕๖ บาท
- ส่งเสริมการผลิตข้าวชุมชน (ข้าวเหนียวกอเดียว) ในพื้นที่ หมู่ที่ ๒,๓,๔,๑๒ ตำบลสงเปลือย ๑๒๖ ราย พื้นที่ ๑,๐๐๐ ไร่ และหมู่ ๕ ตำบลคุ้มเก่า ๔๔ ราย พื้นที่ ๓๐๐ ไร่
- ส่งเสริมการปลูกข้าวหอมมะลิชุมชน ในพื้นที่เกษตรกรหมู่ที่ ๔,๗,๘ ตำบลสงเปลือย ๙๐ ราย พื้นที่ ๗๕๐ ไร่ หมู่ที่ ๕ ตำบลกุดสิมคุ้มใหม่ ๓๐ ราย ๒๕๐ ไร่ รวมทั้งสิ้น ๑๒๐ ราย ๑,๐๐๐ ไร่
- ส่งเสริมการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ในโรงงานต้นแบบผลิตปุ๋ยอินทรีย์ตามโครงการปรับโครงสร้างระบบการผลิตการเกษตร ๓ แห่ง ได้แก่ ตำบลสงเปลือย ตำบลหนองผือ ตำบลกุดปลาเค้า สามารถผลิตปุ๋ยได้โรงงานละ ๑๐๐ ตันต่อปี เพื่อสนับสนุนการปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ
สถานที่ท่องเที่ยวรอบบริเวณบ้านศรีถาวรพนา
นอกจากบ้านศรีถาวรเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงน่าเที่ยวแล้ว รอบๆบริเวณบ้านศรีถาวรยังมีที่สถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย เช่น อุโมงผันน้ำ อ่างเก็บน้ำห้วยไผ่ น้ำตกแก่งโพธิ์ เป็นต้น
( อุโมงผันน้ำ )
( อุโมงผันน้ำ )
( อ่างเก็บน้ำห้วยไผ่ )
(น้ำตกแก่งโพธิ์ )
วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2559
กิจกรรมหลังเลิกเรียน
ในตอนเช้าและคาบเรียนสุดท้ายของทุกวัน นักเรียนทุกคนจะไปทำหน้าที่ได้รับหมอบหมาย ซึ่งงานแต่ละงานจะได้จะได้ทำกันเป็นกลุ่มๆ เช่นกลุ่เลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ กลุ่มแปลงเกษตร กลุ่มแก้วมังกร ในการทำเช่นนี้ไม่ใช่เพราะทำไว้เป็นอาหาในตอนเทียงเท่า ถ้าวันใดมีผลผลิตเยอะนักเรียนสามารถนำกลับไปกินที่บ้าน
ผังพื้นที่
โรงเรียนตำรวจตระเวนชานแดนการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย
ตั้งอยู่หมู่ที่ 12 บ้านศรีถาวรพนา ต.กกตูม
อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร มีพื้นที่ทั้งหมด 24
ไร่แบ่งพื้นที่ใช้สอย
-อาคารสถานที่ 6 ไร่
-อาคารสถานที่ 6 ไร่
- พื้นที่การเกษร 6 ไร่
-
ป่าชุมชน 8 ไร่
- พื้นที่แหล่งน้ำ 4 ไร่พิธีเปิดโรงเรียน
เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2544 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมาเป็นองค์ประธานประกอบพิธีเปิดโรงเรียนอย่างเป็นทางการและเสด็จเยี่ยมโครงการพระราชดำริฯ ครั้งที่ 1 และเป็นโรงเรียนอันดับที่ 296 ของประเทศ
วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2559
ประวัติความเป็นมา
1.ประวัติความเป็นมา
โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย
เฉลิมฉลองครบ 100 ปี วันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเมื่อ
วันที่ 16 กรกฎาคม 2542 นายทองโอ พลกล้า ผู้นำกลุ่มบ้านศรีถาวรพนา
ได้นำหนังสือร้องขอเพื่อจัดตั้งโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน
ไปยังกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 เนื่องจากกรมป่าไม้
ได้อพยพราษฎรออกจากเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าภูสีฐานให้มาตั้งถิ่นฐานใหม่ที่บ้านศรีถาวรพนา
โดยมีข้อแม้ว่าประชาชนต้องเข้ามาอยู่พื้นที่และบุตรหลานที่ตามมาด้วยต้องกลับไปเรียนที่เดิม
ซึ่งห่างไกลและลำบาก นายทองโอ พลกล้า
พร้อมคณะกรรมการมองเห็นความสบายของบุตรหลานจึงรวมกลุ่มและทำหนังสือร้องขอ
เพื่อจัดตั้งโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ไปยังหน่วยงานกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่
23 ค่ายศรีสกุลวงศ์ จังหวัดสกลนคร
ผ่านศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราขดำริ พ.ต.อ.โชติ ไทยิ่ง ผกก.ตชด.23
จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ประเสริฐ เขียนนอก พ.ต.ท.ยรรยง สร้างคำ ร.ต.ท.วิโรจน์
ทิพย์อาสน์ ร.ต.ท.เชิดชูพงษ์ วงศรียา ร.ต.ต.เลิศ
จันทรศิริ เข้าตรวจพื้นทีเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง
หลังจากได้รับรายงานแล้ว กก.ตชด.23 เห็นว่าอยู่ในหลักเกณฑ์ จึงดำเนินตามขั้นตอน
โดยทำหนังสือขอความลงนามเห็นชอบมายังนายอำเภอดงหลวง
และผู้ว่าจังหวัดมุกดาหารตามลำดับ เมื่อเห็นชอบแล้ว จึงได้นำเรียนผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้นจนถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติและได้อนุมัติให้จัดตั้งโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านศรีถาวรพนา
เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2543 ในขณะที่ขออนุมัติตามขั้นตอนนั้น
เพื่อให้สามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้ทัน ในปีการศึกษา 2543 กก.ตชด.23
ได้มอบหมายให้ ร.ต.ต.ตรีเลิศ จันทรศิริ
นำกลุ่มราษฎรในหมู่บ้านร่วมกันสละกำลังทรัพย์และแรงงาน
ช่วยกันสร้างอาคารเรียนชั่วคราวขึ้น จำนวน 1 หลัง อาคารเอนกประสงค์ 1 หลัง โรงอาหาร 1 หลัง และบ้านพักครู 7 หลัง
โดยทำพิธียกเสาเอกอาคารเรียนชั่วคราววันที่ 7 มกราคม 2543
โรงเรียนตำรวจตระเวนชายการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยเฉลิมฉลองครบรอบ ๑๐๐ ปี วันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
โรงเรียนตำรวจตระเวนชายการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยเฉลิมฉลองครบรอบ ๑๐๐ ปี วันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ตั้งอยู่หมู่ที่ ๑๒ ตำบลกกตูม
อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยฯ
สังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓ จังหวัดสกลนคร
เปิดทำการสอนตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๓ โดยเปิดสอนระดับก่อนประถม ถึงระดับประถมศึกษา
ปัจจุบันมีนักเรียน ๑๗๙ คน เป็นชาย ๘๓ คน หญิง ๙๖ คน มีครูตำรวจตระเวนชายแดน ๘ นาย
ผู้ดูแลเด็ก ๒ คน และครูอาสาช่วยสอน ๒ คน
วันเสาร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2559
สวนปล์าม
สวนปาล์มเป็น
อีกอาชีพหนึ่งที่ทำรายได้ ให้แก่ชาวบ้านไม่น้อย สามารถทำรายได้ให้ชาวบ้านถึง ไร้ละ 4,000
ต่อเดือน จนกว่าจะได้เดือนละ 4,000ต่อไร้ ชาวบ้าน ต้องดูแลเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง รดน้ำ พรวนดิน
ใส่ปุ๋ย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)